อย่าชะล่าใจ! ไข้เลือดออกโรคร้ายในหน้าฝน

อย่าชะล่าใจ! ไข้เลือดออกโรคร้ายในหน้าฝน

เพราะหน้าฝนคือฤดูกาลที่มักพบโรค ไข้เลือดออก ระบาดมากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม โดยไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเด็งกี (dengue virus) พบผู้ป่วยได้ในทุกช่วงอายุ Doctor at Home จึงชวนมารู้จักกับอาการของโรคไข้เลือดออก พร้อมวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น

 

อาการเบื้องต้นของโรคไข้เลือดออก

 

1. มีไข้สูง เกิดขึ้นฉับพลัน นอนซม เบื่ออาหาร 
2. หน้าแดง ตาแดง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย 
3. บางรายอาจคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องทั่วไป หรือปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่หรือชายโครงขวา
4. ประมาณวันที่ 3 ของไข้อาจมีผื่นแดงขึ้นตามแขนขาและลำตัว บางรายอาจมีจุดเลือดออกเป็นจุดแดงเล็ก ๆ บางครั้งอาจมีจ้ำเขียวด้วย

 

อาการรุนแรงที่อาจพบใน 3-4 วันหลังมีไข้

 

1. ปวดท้องมาก
2. อาเจียนมาก จนดื่มน้ำไม่ได้
3. ตัวเย็น มือเท้าเย็น กระสับกระส่าย 
4. เลือดออกตามผิวหนัง เป็นจุดแดง หรือจ้ำเขียว
5. เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะเป็นเลือด

 

ควรไปพบแพทย์โดยเร็วทุกคน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ หากมีไข้สูงฉับพลัน นอนซม เบื่ออาหาร ปวดท้อง อาเจียน ดื่มน้ำไม่ได้ หรือสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก อย่าชะล่าใจ มัวแต่รอดูอาการจนมีอาการรุนแรงปรากฏแล้วค่อยไปพบแพทย์

 

การรักษาของแพทย์ แพทย์จะตรวจดูอาการ หากเป็นไข้เลือดออกที่รุนแรง จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล หากเป็นเพียงเล็กน้อย แพทย์จะให้ผู้ป่วยกลับไปดูแลรักษาตัวเองที่บ้าน

 

วิธีดูแลตัวเองที่บ้าน เมื่อเป็นไข้เลือดออก

 

  • กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
  • ไปพบแพทย์ตามนัด
  • ไม่เพิ่มยาลดไข้พาราเซตามอลด้วยตัวเอง ให้กินตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร เพราะหากกินมากเกินไปอาจมีพิษต่อตับ
  • ไม่ซื้อยาเอง โดยเฉพาะยาลดไข้แอสไพริน และยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น ไอบูโพรเฟน เพราะอาจทำให้เลือดออกง่าย
  • รับประทานอาหารอ่อน ๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก นม น้ำหวาน
  • ดื่มน้ำมาก ๆ จนปัสสาวะใส อาจดื่มน้ำเปล่า น้ำผลไม้ หรือสารละลายน้ำตาลเกลือแร่
  • หากดื่มน้ำอัดลม ควรเขย่าฟองออกก่อน 
  • หลีกเลี่ยงน้ำดื่มที่ออกสีแดงหรือน้ำตาลเข้ม เพราะหากอาเจียนอาจทำให้แยกไม่ออกว่าเป็นเลือดหรือน้ำที่ดื่ม

 

  • ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัดโดยเร็ว หากมีไข้นานเกิน 1 สัปดาห์ รู้สึกหนาวสั่น ปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก หรือซึมมาก หายใจหอบ ปวดท้องตรงยอดอกหรือลิ้นปี่ ตาเหลืองตัวเหลือง เบื่ออาหารหรือดื่มน้ำได้น้อย มือเท้าเย็นชืด กระสับกระส่าย มีจุดแดงจ้ำเลือดขึ้นตามตัว มีเลือดออก (เช่น เลือดกำเดาไหล อาเจียน หรือถ่ายเป็นเลือด) หรือกินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียง รวมถึงมีอาการผิดปกติรุนแรงอื่น ๆ

 

ไข้เลือดออกป้องกันได้

 

  • ทำลายแหล่งเพาะพันธ์ุยุงลาย เช่น บริเวณที่มีน้ำขัง 
  • อยู่ในห้องที่มีมุ้งลวด หรือให้เด็กเล็กนอนกางมุ้ง
  • ใช้ยาทากันยุง หรือสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวป้องกันยุงลายกัด ทั้งกลางวันและกลางคืน
  • ปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก หากสามารถทำได้

 

 

สรุป

 

อาการของไข้เลือดออกมักไม่มีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล อาจมีไข้สูง หน้าแดง ตาแดง หรือผื่นขึ้นคล้ายหัด ส่วนมากแล้วผู้ป่วยจะหายได้เองภายในประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพียงรักษาตามอาการ และดื่มน้ำมาก ๆ ป้องกันภาวะช็อก ใครที่มีอาการไข้สูงเฉียบพลันในช่วงฤดูฝนหรือช่วงที่โรคไข้เลือดออกระบาด อย่าชะล่าใจ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง

 

 

อ่านข้อมูลโรค ไข้เลือดออก เพิ่มเติม

 

คุณสามารถเช็กอาการ ไข้ร่วมกับมีผื่นหรือตุ่มขึ้นจุดแดง จ้ำเขียว ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคไข้เลือดออก ได้ที่ Smart Doctor โปรแกรมตรวจอาการเบื้องต้นอัจฉริยะ จาก Doctor at Home

ข้อมูลล่าสุด : 27 ส.ค. 2567